Business

วิธีการได้จะเป็นพนักงานเงินเดือนมากกว่า 100k+

วิธีการได้จะเป็นพนักงานเงินเดือนมากกว่า 100k+

  1. คำพูดถือเป็นที่สุด – สัญญาว่าทำอะไร ให้ทำให้เหนือมากกว่าที่สัญญา
  2. มีเป้าหมายแบบ 10x ทุกครั้ง – อย่าตั้งเป้าหมายแบบคนทั่วไป ให้ตั้งแบบที่คู่แข่งไม่กล้าสู้ด้วย หรือ อยากเป็นพวกแแทน
  3. ตั้งเป้าหมายและโฟกัสที่กระบวนการ – ตั้งเป้าหมายแล้ว ให้สร้างวิธีไปหาเป้าหมายด้วย
  4. 20/80 – รู้ว่าใส่ แรง+เวลา ตรงไหน 20 แล้วได้ผลลัพธ์ 80
  5. รู้จักการทำงานกับคน – รู้วิธีการทำงานกับคนแต่ละระดับ และ แต่ละแบบที่แตกต่างกัน คนแต่ละคน สไตล์ไม่เหมือนกัน บางคนแค่บอกเป้าและให้อิสระได้เลย บางคนต้องจับมือทำบอกวิธีการแบบละเอียด
  6. สร้างคุณค่าให้ได้มากกว่าสิ่งที่ได้รับเสมอ – ถ้าค่าตัวเราแพงกว่าผลลัพธ์ที่เราสร้างได้ ซักพักผลตอบแทนที่เราได้จะลดลงเอง

  7. ผู้นำเท่านั้นที่จะสร้างความแตกต่างได้ – คนที่เก่งจะไม่เดินตามคนที่เค้าไม่รู้สึกว่าเก่งกว่า หรือ มีความเป็นผู้นำที่น้อยกว่าตัวเอง

  8. เราทำได้ทุกอย่าง – มนุษย์ก็บินได้ แต่อาจจะต้องอาศัพเวลา 1 พันล้านปีในการกระโดดลงหน้าผา เพื่อวิวัฒนาการปีก ประเด็นคือเราทำได้ทุกอย่าง แต่ขึ้นอยู่กับใช้เวลาเท่าไหร่ ดูให้ออกว่าเรื่องไหน ต้องใช้เวลาเท่าไหร่ เพราะต้นทุนที่แพงที่สุด คือ “เวลา”

  9. เวลาคนอื่นพูดถึงเรา เค้าพูดว่าเราเป็นคนยังไง – คนไม่ฟังสิ่งที่เราพูด แต่ดูสิ่งที่เราทำ ไม่ต้องพูดอะไรหรอก แค่ทำเยอะๆ

  10. ให้เกียรติคนอื่น และ อ่อนน้อมถ่อมตนเสมอ – ไม่มีใครเหนือกว่าใคร มีแค่ทำอะไรได้ และสิ่งนั้นมีอิมแพคแค่ไหน ในโลก

  11. หยุดเรียนรู้ = หนทางสู่จุดจบ – มีเรื่องราวมากมายที่เราไม่รู้ จงคัดเลือกสิ่งที่จะลงทุนเวลาลงไป ทั้งเพื่อเป้าหมายการเงิน ครอบครัว และ สุขภาพ

  12. วิธีคิดสำคัญกว่าวิธีการ – ทัศนคติ คือ จุดเริ่มต้นของทุกสิ่ง จงเลือกกลุ่มคนที่เราจะล้อมรอบตัวเองอย่างระมัดระวัง

  13. กระจายงานให้เป็น – การทำงานช่วงแรกคุณจะเก่งมาก ทำทุกอย่างด้วยตัวเอง พอให้คนอื่นทำก็จะหงุดหงิดเพราะช้าและไม่ทันใจ แต่หนทางเดียวที่จะทำงานใหญ่ได้คือ แบ่งงานให้เก่ง ผู้บริหารระดับสูงจะทำเฉพาะงานที่มีเค้าคนเดียวที่ทำได้ งานอื่นๆ ที่มีคนทำแทนได้ จะกระจายออกหมด ย้ำเหมือนเดิมว่า ต้นทุนที่แพงที่สุด คือ “เวลา”
  14. เป็นคนที่รู้ว่าบริษัทต้องการอะไร – เราต้องเป็นคนที่รู้จักบริษัทอย่างดี รู้อุตสาหกรรม รู้ business model รู้การแข่งขัน รู้ว่าอีก 3 ปีบริษัทต้องการอะไร และ เพื่อให้ได้สิ่งนั้น ปีนี้บริษัทต้องได้อะไร ต้องมีทรัพยากรอะไรเพิ่ม ต้องตัดอะไรออก แล้วไตรมาสนี้ เดือนนี้ เราต้องทำอะไร ในตำแหน่งของเรา ถ้าเรายังต้องรอให้คนอื่นมาบอก ก็ยังถือว่าเรายังไม่เข้าใจจริงๆ

  15. แก้ปัญหา และมองหาทางไปต่อได้ตลอด – ในระดับผู้จัดการขึ้น บริษัทไม่ได้จ้างเราให้มาบอกว่าทำอะไรไม่ได้ แต่จ้างมาเพื่อให้บอกว่า บริษัททำอะไรได้บ้าง option คืออะไรบ้าง ข้อดีเสีย แต่ละอย่างคืออะไร และใช้เวลาเท่าไหร่ ใช้ทรัพยากรอะไรบ้าง วิเคราะห์มาเลย แล้วเอามาถกกัน รีบคุย รีบตัดสินใจ รีบทำ เพื่อรีบได้ feedback และ ปรับตัวต่อ

  16. อย่าเสียเวลาไปในองค์รที่ไม่ได้มีคุณค่า (values) ตรงกับเรา – เราเป็นผลลัพธ์ของคน 5 คน ที่เราใช้เวลาด้วยมากที่สุด คำคำนี้จริงเสมอ หาองค์กรที่เน้นสร้างคุณค่าในระยะยาวที่แท้จริง ก่อนจะทำอะไร ดูก่อนว่าใครเป็นทำ ไม่งั้นปัญหาไม่รู้จบ เพราะผิดที่คน หรือ ทีมตั้งแต่แรก ป้องกันการเกิด toxic workplace

  17. จงหิวกระหายตลอดเวลา – หิวความสำเร็จ หิวการเรียนรู้ หิวการเติบโต
    *ปล1 มีหลายคนพิมมาถามว่า ถ้าทำขนาดนี้ทำธุรกิจส่วนตัวไม่ดีกว่าเหลอ ส่วนตัวผมทำทั้ง 2 อย่างมาแล้ว เดี๋ยวจะเขียนเรื่อง “ทำธุรกิจส่วนตัว VS เป็นพนักงานบริษัท” ให้นะครับ เพราะดีทั้ง 2 อย่าง ขึ้นอยู่กับปัจจัยของ ทรัพยากร, ทักษะ, ประสบการณ์, connection, ต้นทุน, เวลา และ โอกาส

#อัลติเมทเอ้าพุ้ท #Ultimateoutput #hopeful #hopefulcrm

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *